สำหรับหลายองค์กรสิ่งที่ท้าทายที่สุดอย่างหนึ่งในการเอาชนะในธุรกิจคือการเติบโตหรือการขยายบริษัท ซึ่งหมายถึงการขยายกระบวนการทำงาน, บุคลากร, และสถานที่ที่ดำเนินธุรกิจ การขยายตัวนี้สามารถนำไปสู่ผลประโยชน์ที่มากขึ้นและอุปสรรคที่มากขึ้นเช่นกัน อุปสรรคอย่างหนึ่งคือการขาดประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน.

เมื่อธุรกิจเติบโตขึ้นกิจกรรมของบริษัทมีแนวโน้มที่จะมีขนาดใหญ่และซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการขยายตัวทั่วโลกหรือการเพิ่มสาขาที่สอง การเติบโตสามารถเพิ่มการขาดประสิทธิภาพที่มีอยู่แล้วขององค์กรให้มากขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างถูกต้อง การกำหนดมาตรฐานระบบการวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) สามารถช่วยองค์กรลดจำนวนกิจกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดมูลค่าและที่ขาดประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้ผู้บริหารธุรกิจสามารถเอาชนะอุปสรรคที่มาพร้อมกับการเติบโตขององค์กร นี้คือรายละเอียดของประโยชน์ทางธุรกิจต่างๆจากการตั้งค่ามาตรฐานERP

 

ปรับปรุงธุรกิจของคุณให้ทันสมัย

การเว้นระยะห่างทางสังคมและการทำงานจากบ้านหรือการทำงานแบบรีโมท ได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบของธุรกิจในปัจจุบัน big data ยังคงเป็นตัวเชื่อมโยงสำคัญต่อความสำเร็จของธุรกิจทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลและเทคโนโลยีประเภทนี้ได้อย่างเต็มที่ ธุรกิจต้องมีความ "ทันสมัย" เพียงพอในการบันทึก, การประมวลผล, และจัดการผลลัพธ์ ซึ่งหมายความว่าคุณจำเป็นต้องสนับสนุนกิจกรรมของบริษัทของคุณให้เป็นในรูปแบบดิจิทัล ปัญหาในการปรับปรุงธุรกิจให้ทันสมัยด้วยวิธีนี้คือผู้บริหารหลายคนขาดความรู้ที่เพียงพอเกี่ยวกับวิธีดำเนินการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีนี้ แม้จะมีบริษัทประมาณ 74% แสดงความปรารถนาที่จะเป็นบริษัทที่ "ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล" แต่มีบริษัทเพียง29%เท่านั้นที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการเชื่อมโยงการวิเคราะห์ข้อมูลเข้ากับการใช้งานจริง

ประโยชน์สูงสุดประการหนึ่งของการตั้งค่ามาตรฐานERP คือองค์กรต่างๆสามารถจัดเตรียมเทคโนโลยีเพื่อเชื่อมต่อและประสานงานกระบวนการภายในของตนได้ การใช้ระบบบนคลาวด์ ช่วยให้ERPสามารถรวบรวมและใช้ข้อมูลของบริษัทจากทุกที่ เพื่อสร้างข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่า ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้สามารถนำไปใช้ต่อเพื่อสร้างชุดแนวทางปฏิบัติที่เป็นเลิศซึ่งจะช่วยให้บริษัทลดจำนวนรายได้ที่สูญเสียไปเนื่องจากการขาดประสิทธิภาพที่เป็นมาตรฐาน

เปิดเผยผลกำไรที่ซ่อนอยู่

Mario Rui Candido ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคของทวีปอเมริกาของ be one solutions ตระหนักดีว่าทุกธุรกิจมีผลกำไรที่ ‘ซ่อนอยู่’ ฝังอยู่ภายใต้การขาดประสิทธิภาพในการดำเนินงาน เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่า "ผลกำไรบางครั้งก็ซ่อนอยู่ใต้น้ำ" สิ่งที่เขาหมายถึงก็คืออัตรากำไรมักถูกจำกัดด้วยต้นทุนที่มีทัศนวิสัยต่ำ ตัวอย่างเช่นมีบริษัทเพียงไม่กี่แห่งที่คำนึงถึงเวลา, ทรัพยากร, และเงินทุนที่ใช้ในการจัดรูปแบบเอกสารของแผนกบุคคล การคำนวณเงินเดือน และแบบฟอร์มภาษีสำหรับบริษัทสาขาในแต่ละประเทศ ค่าใช้จ่ายเหล่านี้อาจเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบริษัทข้ามชาติที่มีพนักงานหลายพันคนทั่วโลก แต่ธุรกิจจะ "เปิดเผยผลกำไรได้อย่างไร" วิธีหนึ่งก็คือการกำหนดค่ามาตรฐาน ERP

การกำหนดค่ามาตรฐานERPช่วยให้บริษัทต่างๆสามารถจัดระบบการทำงาน, กิจกรรม, และเทคโนโลยีของตนในแต่ละสาขา แต่ละบริษัทย่อย และแต่ละแผนกในการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการต้นทุนได้ ในทำนองเดียวกันความสม่ำเสมอในลักษณะนี้ยังส่งผลให้เกิดผลผลิตและประสิทธิภาพดีขึ้นในทุกพื้นที่ของธุรกิจ การกำหนดค่ามาตรฐานERPไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนากระบงนการผลิต แต่ยังช่วยเพิ่มการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

 

Baumer เป็นลูกค้าของ be one solutions มายาวนานและเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีจากสวิสประสบปัญหาการใช้ระบบในหลายๆไซต์ทั่วโลก หนึ่งในปัญหาที่ Baumer ประสบคือความสอดคล้องของแพลตฟอร์มข้อมูลจากคู่ค้าที่หลากหลาย ในการประสานงานกับคู่ค้า สำนักงานใหญ่ของ Baumer ต้องจัดการกับซอฟต์แวร์เดียวกันตั้งแต่ห้าเวอร์ชันขึ้นไปในคราวเดียว ซึ่งส่งผลให้เกิดการสื่อสารผิดพลาดและข้อผิดพลาดในการใช้ระบบนี้ค่อยๆกินผลกำไรบริษัทไปอย่างช้าๆ แต่หลังจากร่วมมือกับ be one solutions ทางBaumer ก็สามารถสร้างมาตรฐานและปรับปรุงกิจกรรมภายในพร้อมกับการแนะนำแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์มาตรฐานให้กับคู่ค้าที่จำเป็นต้องได้รับการอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดตลอดเวลา อย่างไรก็ตามการกำหนดมาตรฐานทางธุรกิจให้สมบูรณ์ไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด ยังคงต้องการความยืดหยุ่นในระดับหนึ่งเพื่อรองรับและใช้ประโยชน์จากความแตกต่างของบริษัทย่อยและสถานที่ตั้งแต่ละแห่ง

การตั้งค่ามาตรฐานERP: การปรับสมดุล

ลองใช้กรณีศึกษาอื่นเป็นตัวอย่าง Extruflex ผู้ผลิตพีวีซีสัญชาติฝรั่งเศสพยายามเอาชนะความท้าทายบางประการของการขยายตัวทั่วโลก บริษั ย่อยในต่างประเทศแต่ละแห่งสำหรับพวกเขารู้สึกราวกับว่าพวกเขากำลังดำเนินงานอยู่บน ‘เกาะ’ ด้วยการตัดการเชื่อมต่อภายในที่มีขนาดใหญ่นี้การสร้างมาตรฐานจึงเป็นเครื่องมือที่น่าจะเป็นไปได้ แต่ในการเป็นพาร์ทเนอร์กับ Extruflex เป้าหมายของเราไม่ได้อยู่ที่การสร้างมาตรฐานให้กับธุรกิจโดยสมบูรณ์ผ่าน ERP แต่เป็นการสร้างสมดุลระหว่างความสม่ำเสมอและความยืดหยุ่น

ความคล่องตัวและมาตรฐานทางธุรกิจเปรียบเสมือนเหรียญคนละด้าน ทั้งสองสิ่งนี้เป็นคุณลักษณะขององค์กรที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในรูปแบบที่แตกต่างกัน การกำหนดมาตรฐานในกรณีของ Extruflex ช่วยให้การจัดการสินค้าคงคลังเป็นไปอย่างแม่นยำยิ่งขึ้น สิ่งนี้ทำให้ Extruflex สามารถปรับใช้รูปแบบธุรกิจแบบ "ทันเวลาพอดี (just-in-time)" ที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับคำสั่งซื้อ อย่างไรก็ตามกุญแจสำคัญของการตัดการการคลังแบบ "ทันเวลาพอดี (just-in-time)"คือความยืดหยุ่น หากเครื่องมือช่วยจัดการในเรื่องของกฎหมายแรงงานในท้องถิ่นและการคำนวณต้นทุนและภาษี Extruflex จะไม่สามารถมีความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพที่เป็นมาตรฐานได้

ใช้ประโยชน์จากความร่วมมือทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง

แม้ว่าการกำหนดมาตรฐานERP จะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ แต่ก็ต้องมีการกำกับดูแลที่เหมาะสมเพื่อให้เป็นโซลูชันที่มีประสิทธิภาพ be one solutions ช่วยให้องค์กรต่างๆได้รับประโยชน์จากการเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจและการเป็นพาร์ทเนอร์ SAP ระดับโลก ความมุ่งมั่นที่เรามีต่อลูกค้าและซัพพลายเออร์ (SAP) ทำให้เราสามารถสร้างความสัมพันธ์บนพื้นฐานของความไว้วางใจและใช้วิธีการติดตั้งระบบที่เป็นเอกลักษณ์ของเราซึ่งเราสามารถปรับแต่งได้สำหรับทุกสถานการณ์ ด้วยประสบการณ์อันยาวนานของเราในการช่วยเหลือองค์กรขนาดใหญ่และบริษัทข้ามชาติในการสร้างมาตรฐานระบบของตนด้วยกลยุทธ์ SAP ERP 1 tier และ 2 tier ช่วยเพิ่มคุณค่าของทั้งการบริการของเราและความร่วมมือกับเรา ยิ่งเรารู้จักธุรกิจของคุณดีขึ้นเท่าไหร่เราก็จะช่วยสนับสนุนธุรกิจของคุณได้มากขึ้นเท่านั้น นอกเหนือจากการซัพพอร์ทลูกค้าด้วยหลากหลายภาษาตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันแล้ว เรามองหาวิธีปรับปรุงประสิทธิภาพด้านต้นทุนตลอดจนผลกำไรจากการดำเนินงานของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ที่คุณจะได้รับจากการกำหนดค่ามาตรฐานERP ร่วมกับ be one solutions ได้แล้ววันนี้

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ be one solutions