ในโลกที่การทำงานจากระยะไกลและรูปแบบธุรกิจแบบกระจายสาขาได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ Enterprise Resource Planning (ERP) ได้เปลี่ยนจากสินค้าทางธุรกิจไปเป็นสิ่งจำเป็นทางธุรกิจ กลยุทธ์และเครื่องมือ ERP ที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยทำให้กระบวนการทำงานขององค์กรเป็นไปในรูปแบบอัตโนมัติที่สามารถติดตามได้โดยใช้ฐานข้อมูลกลางร่วมกัน เมื่อปรับแต่งให้เหมาะกับแต่ละธุรกิจแล้วก็สามารถช่วยรวมฟังก์ชันสำคัญทางธุรกิจ เช่น การจัดการสินค้าคงคลัง, ทรัพยากรบุคคล, และการสื่อสารกับลูกค้าภายใต้แพลตฟอร์มเดียวกัน แม้จะมีประโยชน์หรือข้อดีที่เห็นได้ชัดเจนเหล่านี้ แต่หลายบริษัทยังคงลังเลที่จะยอมรับERPที่เหมาะสำหรับทั้งบริษัทแม่และบริษัทสาขา (2-tier ERPs)

2-tier ERP มีความหมายตรงตัวตามชื่อ คือ การใช้ERP สองระบบที่แยกจากกันและมีระดับการปรับแต่งระบบที่แตกต่างกัน Tier 1 หรือ ระบบแรก อาจะได้รับการปรับแต่งอย่างมากเพื่อให้เหมาะกับความต้องการ, ขนาด, และความซับซ้อนขององค์กรขนาดใหญ่ ในขณะเดียวกัน Tier 2 หรือระบบที่สองจะเป็นERP ที่ใช้ทรัพยากรน้อยกว่า, มีความละเอียดแม่นยำ, และมีความเป็นมาตรฐาน ซึ่งนิยมใช้ในบริษัทสาขาหรือบริษัทขนาดเล็ก โดยปกติการพยายามรวมข้อมูลจากหลายระบบเข้าหากันมักเป็นเรื่องยากอย่างเหลือเชื่อที่จะทำในบริษัทระดับโลกที่มีบริษัทสาขาหลายแห่ง แต่สำหรับ be one solutions การติดตั้งการใช้งาน 2-Tier SAP ERPs นั้นเป็นเรื่องที่เราเชี่ยวชาญ และถือเป็นการบริการหลักของเรา

ความลังเลใจในการเลือกใช้ ERP ที่เกิดจากความเข้าใจเบื้องต้นที่คลาดเคลื่อนในตัวERPและความกังวลเกี่ยวกับการพึ่งพาเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้น
เป้าหมายของบทความนี้คือการช่วยให้ผู้นำทางธุรกิจเข้าใจเป้าหมาย, ผลลัพธ์, และประโยชน์ของ ERP ได้ดีขึ้น และขจัดความคิดเบื้องต้นใดๆที่อาจเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับระบบการวางแผนทรัพยากรองค์กร (Enterprice Resource Planning)

ความเข้าใจเบื้องต้นที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับERP

ในฐานะผู้นำทางธุรกิจการตัดสินใจโดยใช้อคติหรือสมมุติฐานก่อนพิจารณาข้อเท็จจริง อาจไม่ก่อให้เกิดผลลัพท์ที่ดี อคติหรือสมมุติฐานสามารถเปลี่ยนเป็นความเข้าใจผิดได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจทำให้บริษัท เสียโอกาสในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากร,แนวทางปฏิบัติ,และเทคโนโลยีที่อาจช่วยปรับปรุงการดำเนินงาน เราขอนำเสนอสมมุติฐานหรือความเข้าใจเกี่ยวกับERPบางส่วนที่เราได้ยินมาโดยตลอด

ERPเป็นระบบสำหรับองค์กรขนาดใหญ่เท่านั้น

นี่เป็นหนึ่งในความเข้าใจผิดที่มีอิทธิพลมากที่สุดที่ส่งผลต่อการเลือกใช้ERP บริษัทสาขาหลายแห่งไม่เชื่อว่าบริษัทของพวกเขาจะสามารถใช้ความสามารถของระบบERPได้อย่างเต็มที่เพราะขนาดบริษัทของพวกเขา องค์กรขนาดเล็กคิดว่าขนาดของพวกเขาไม่ใหญ่พอที่จะคุ้มค่าผลประโยชน์จากการลงทุนนี้ โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทแม่ของพวกเขาเอง อย่างไรก็ตามคุณสมบัติที่มีค่าที่สุดอย่างหนึ่งของ ERP คือความยืดหยุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องความสามารถในการปรับขนาดการใช้งาน

การเลือกผู้ให้บริการERP ที่เหมาะสมองค์กรสามารถสร้างระบบข้อมูลข้ามแผนกที่ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการดำเนินงานและการโต้ตอบทั่วทั้งบริษัทได้ ระบบการวางแผนทรัพยากรองค์กรเช่น SAP Business One หรือ S/4HANA มักจะใช้เทคโนโลยีบนคลาวด์เพื่อช่วยเพิ่มความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลจากทุกที่ เทคโนโลยีเช่นนี้ซึ่งไม่ได้ถูกจำกัดด้วยโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพภายในองค์กร สามารถปรับขนาดการใช้งานได้เพื่อให้เข้ากับธุรกิจทุกขนาด ในฐานะผู้เชี่ยวชาญการติดตั้งระบบทั่วโลกโดยใช้ 2-tier strategy บริษัทระดับโลกและองค์กรขนาดใหญ่เลือกใช้SAPปรับให้เข้ากับขนาดธุรกิจในหลากหลายภูมิภาค ภายใต้สิ่งอำนวยความสะดวกและรูปแบบองค์กรที่แตกต่างกัน

ERPเป็นระบบที่ปรับแต่งไม่ได้

คุณอาจแปลกใจหากทราบว่าผู้บริหารทางธุรกิจจำนวนมากมองว่าระบบวางแผนทรัพยากรองค์กรเป็นการซื้อ "สินค้าพร้อมใช้" ซึ่งไม่สามารถปรับให้เข้ากับรูปแบบธุรกิจของพวกเขาได้ แต่ไม่ใช่ซอฟต์แวร์ERPทั้งหมดที่เป็นเช่นนั้น ในความเป็นจริงแพ็คเกจระบบERPที่พร้อมใช้งานมีรูปแบบหลากหลายอย่างที่คาดไม่ถึง ตัวอย่างเช่นเราสามารถปรับแต่ง SAP Business One สำหรับอุตสาหกรรม, ภูมิภาค, ขนาดบริษัท, และโครงสร้างองค์กรที่แตกต่างกันได้ ตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของการปรับแต่งERPให้เหมาะกับธุรกิจของคุณคือ 2-tier ERP

ความเข้าใจผิดที่ว่าระบบ ERP มีไว้สำหรับบริษัทขนาดใหญ่เท่านั้นเกิดจากข้อเท็จจริงที่ว่า เทคโนโลยีนี้ทำงานได้ดีในบริษัทระดับโลกรายใหญ่ที่มีความหลากหลาย องค์กรที่มีขนาดใหญ่จำนวนมากมักประสบปัญหาในการติดตั้งระบบข้อมูลที่บริษัทสาขาและสำนักงานใหญ่สามารถสื่อสารซึ่งกันและกันได้อย่างมีประสิทธิผลและประสิทธิภาพ นั่นคือสิ่งที่ทำให้ 2-tier ERP มีความพิเศษมาก

สิ่งนี้จะรวมประสิทธิภาพของ ERP ที่ปรับแต่งตามรุปแบบที่ต้องการเข้ากับประสิทธิภาพของกระบวนการเก็บข้อมูลที่เป็นมาตรฐานมากขึ้น ตัวอย่างเช่น 2-tier ERPได้รับการออกแบบให้ไหลจากปลายด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง ข้อมูลที่รวบรวมจาก Tier 2 จะถูกส่งไปยัง Tier 1 ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นซึ่งสามารถประมวลผล, ประสานงาน, และใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่ได้รับการบันทึกไว้ ระบบเช่นนี้ช่วยเพิ่มการจัดการข้อมูลและปรับฟังก์ชันธุรกิจหลักบางอย่างให้สอดคล้องกับข้อกำหนดในท้องถิ่น/ประเทศนั้นๆ เช่น ที่เกี่ยวข้องกับการเงิน, การกำกับดูแล, และการขาย โปรดดูเพจตัวอย่างลูกค้า เพื่ออ่านประสบการณ์ตรงการใช้ 2-tier ERP ของ MAN Energy Solutions, Velux หรือ Takebishi

เนื่องจากข้อเท็จจริงที่ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นความเข้าใจผิดที่ฝังแน่นไปแล้ว จึงอาจเป็นเรื่องยากสำหรับหลายอุตสาหกรรมและผู้นำที่จะลองรับมุมมองใหม่ๆ อย่างไรก็ตามbe one solutionsมีความพร้อมที่จะช่วยช่วยขจัดความเข้าใจผิดเหล่านี้และนำเสนอโซลูชันERP ที่ปรับแต่งได้, ปรับขนาดได้, และมีความยืดหยุ่นให้กับลูกค้า

be one solutions ทำอย่างไรเพื่อแก้ความเข้าใจผิดเหล่านี้

be one solutions เราเข้าใจถึงความสำคัญของการมีบริษัทที่เป็นหนึ่งเดียว ด้วยรูปแบบการทำงานแบบรีโมท100% เราจึงต้องเพิ่มขีดความสามารถให้กับธุรกิจที่มีการกระจายสาขาไปทั่วโลกของเรา ด้วยโครงสร้างข้อมูลที่ช่วยให้เราสามารถจัดการสาขาในกว่า 25 ประเทศได้สำเร็จ และดำเนินการติดตั้งระบบไปแล้วในกว่า 60 ประเทศ นั่นคือเหตุผลที่เราเข้าใจเป็นที่สุดเมื่อพูดถึงการมีระบบERPที่ยืดหยุ่นและปรับแต่งได้ ไม่เพียงแต่เพื่อเพิ่มคุณภาพของข้อมูลเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเพิ่มความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลและประโยชน์จากข้อมูลด้วย

be one solutionsไม่ใช่บริษัทเดียวที่สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีERP ที่ซับซ้อนของเราได้ ธุรกิจทุกขนาดก็สามารถทำกำไรจากการอัปเดตข้อมูลฉับไวทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นเรื่องของสินค้าคงคลัง ยกตัวอย่างบริษัทผลิตภัณฑ์ความงาม หลายบริษัทในอุตสาหากรรมการค้าปลีกด้านความงามได้กระจายอำนาจการดำเนินงานเพื่อเพิ่มความรวดเร็วและประสิทธิภาพสูงสุดให้กับธุรกิจของตน บริษัทสาขาที่ประกอบผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์เสริมบางครั้งต้องใช้สินค้าจากซัพพลายเออร์ที่แตกต่างกัน ดังนั้นองค์กรเหล่านี้จึงต้องใช้ซอฟต์แวร์ERP เพื่อรับข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับปริมาณ, คุณภาพ, และสถานที่จัดส่งเพื่อดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ be one solutionsได้มีโอกาสดูแลบริษัทสาขาของบริษัทผู้นำรายหนึ่งในอุตสาหกรรมค้าปลีกความงาม โดยการติดตั้ง SAP Business One เพื่อให้สามารถประสานงานเรื่องการจัดส่ง, บรรจุภัณฑ์, และการจัดจำหน่ายกับบริษัทแม่ได้ดียิ่งขึ้น

 

ตรงกันข้ามกับความเข้าใจผิดที่กล่าวไว้ข้างต้น การติดตั้ง two-tier ERP นั้นมีความยืดหยุ่นและสามารถปรับแต่งตามความต้องการได้ ระบบERPที่ซับซ้อนและเปี่ยมไปด้วยความสามารถในการปรับขนาดช่วยให้สามารถรองรับธุรกิจในทุกๆขนาด รวมไปถึงแม้เมื่อธุรกิจขยายใหญ่ขึ้นในภายหลัง ในโลกสมัยใหม่ที่ข้อมูลสามารถแบ่งปันจัดเก็บและวิเคราะห์ได้รวดเร็วขึ้น บริษัทต่างๆควรใช้ความสามารถนี้เพื่อปรับปรุงกระบวนการ, เพิ่มประสิทธิภาพ, และอำนวยความสะดวกในการตัดสินใจที่ดีขึ้น

หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมว่าระบบวางแผนทรัพยากรองค์กรสามารถช่วยให้บริษัทของคุณเติบโตได้อย่างไรและจะทำให้เหมาะสมกับธุรกิจและอุตสาหกรรมเฉพาะของคุณได้อย่างไร โปรดอ่านเพจตัวอย่างลูกค้าของเราหรือติดต่อเราวันนี้!

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ be one solutions